วันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2551

1. การทักทาย Greeting
1.1 Formal greeting การทักทายอย่างเป็นทางการ ได้แก่
Good morning = สวัสดีค่ะ / สวัสดีครับ (ใช้พูดตั้งแต่เช้าจนกระทั่งกลางวัน คือ จน
ถึงประมาณเที่ยงหรือบ่ายโมง)
Good afternoon = สวัสดีค่ะ / สวัสดีครับ (ใช้พูดตั้งแต่กลางวันจนถึงก่อนพลบค่ำ คือ
ประมาณ 6 โมงเย็น)
Good evening = สวัสดีค่ะ / สวัสดีครับ (ใช้พูดตั้งแต่ก่อนพลบค่ำ คือ ประมาณ 6 โมงเย็นจนถึงเวลาเข้านอน)
1.2 Informal greeting การทักทายอย่างเป็นกันเอง ได้แก่
Hello/Hallo/Hullo = สวัสดี (ใช้ในโอกาสที่ไม่เป็นพิธีรีตอง อาจจะใช้ในเวลาใดก็ได้)
Hi = หวัดดี (ใช้ในโอกาสที่ไม่เป็นพิธีรีตอง อาจจะใช้ในเวลาใดก็ได้
โดยใช้เฉพาะกับบุคคลที่ค่อนข้างคุ้นเคยมาก / สนิทมาก)

1.3 Greeting with someone’s name การเรียกชื่อผู้อื่นในการทักทาย
ในการทักทายมักมีการเรียกชื่อผู้อื่นด้วย ซึ่งผู้พูดภาษาอังกฤษ ควรเรียกชื่อให้ถูกต้องตามวัฒนธรรมทางภาษา ดังนี้
1.3.1 การเรียกชื่อผู้อื่นที่ไม่คุ้นเคยหรืออย่างสุภาพ หรือแสดงความ
เคารพนับถือ นิยมเรียก นามสกุล (last name) โดยมีคำนำหน้าต่างๆ ซึ่งหมายถึง ”คุณ” เช่น Mr. Smith , Mrs. Smith , Miss Smith, Dr. Smith , Prof. Smith
1.3.2 การเรียกชื่อผู้อื่นที่ไม่คุ้นเคยหรืออย่างสุภาพ และแสดงความเคารพ
นับถือเป็นพิเศษ หรือแสดงความอ่อนน้อมถ่อมตน เช่นนักเรียนพูดกับครู พนักงานโรงแรมพูดกับแขก อาจใช้ คำว่า sir (เมื่อพูดกับผู้ชาย และ madam เมื่อพูดกับผู้หญิง)
1.3.3 การเรียกชื่อผู้อื่นที่คุ้นเคยหรือสนิทมาก นิยมเรียกชื่อ (first name)
หรือ ชื่อเล่น (nickname) เช่น Tim, Danny, Ann, Gloria
Some nicknames of the English names:
Robert can be called Bob or Rob
James “ Jim
Richard “ Dick or Rick
Thomas “ Tom
William “ Bill
Alexander “ Alex
Patrick “ Pat
Patricia “ Pat
Jonathan “ John
Timothy “ Tim
Pamela “ Pam

1.4 การทักทายผู้ที่พบกัน / รู้จักกันครั้งแรก และ การตอบคำทักทาย
How do you do.
It’s nice to meet you.
I’m pleased to meet you.
I’m glad to meet you. How do you do.
Nice to meet you, too.
Pleased to meet you, too
Glad to meet you, too

ไม่มีความคิดเห็น: